สัตว์ประหลาดในตำนาน

[JTR]

10 Abatwa

เป็นความเชื่อของชาวแอฟริกันตอนใต้ว่า
ที่เนินดินหรือที่รังมดเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งที่เหมือนกีบ
คนแต่มีขนาดตัวเล็กเท่ามดชื่ออบัตวา
ที่มีความเหมือนคนแอฟริกาทุกอย่างไม่ว่าลักษณะสังคมและความเป็นอยู่
ชอบอาศัยอยู่อย่างสงบ ขี้อาย ทำให้ ไม่มีใครพบเห็นบ่อยนัก
ยกเว้นเด็กที่อายุต่ำกว่าสี่ขวบลงมา พ่อมดหมอผี และสตรีมีครรภ์
ว่ากันว่าหญิงที่ตั้งท้องได้เจ็ดเดือนถ้าเห็นอบัตวาผู้ชาย
ลูกที่คลอดออกมาจะเป็นชาย

9 Heikegani

ปูหน้าคน
เป็นปูที่มีอยู่จริงแล้วและเป็นปูขนาดเล็กพื้นเมืองของญี่ปุ่น
โดยปูนี้มีความเชื่อในตำนานของญี่ปุ่นว่า ในสมัยก่อนญี่ปุ่นโบราณ
เกิดสงครามตระกูลไทระ(เฮกะ)
กับตระกูลมินาโม(เกนจิ)ที่สองตระกูลเป็นตระกูลซามูไรที่มีอำนาจในญี่ปุ่นใน
ขณะนั้น ทั้งคู่ทำสงครามกันไปมาจนกระทั้งมาถึงศึกสุดท้ายในตำบลดันโนะอุระ
ซึ่งอยู่ในช่องแคบ ติดชายฝั่งทะเลของชิมิโนะเซกิ
กล่าวกันว่าสงครามครั้งนี้ทำให้ตระกูลไทระสูญสิ้นหมดทั้งตระกูล
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้หญิง
และดวงวิญญาณไม่ไปเกิดและทั้งหมดได้สิงสถิตแสดงอิทธิฤทธิ์บันดาลให้เกิดปู
หน้าคนเฮเกะงานิที่กระดองปูหน้าเหมือนหน้าซามูไรหน้าดุๆ ขึ้นมา


8 Kapre

หรือ ผียักษ์ต้นไม้สูบบุหรี่(ซิการ์)
เป็นปีศาจในตำนานของฟิลิปปินส์ มีลักษณะเหมือนปีศาจต้นไม้
แต่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ สูงประมาณ 7- 9 ฟุต ขนสีน้ำตาล
มีเครา มีนิสัยชอบสูบบุหรี่หรือยาสูบ
ชอบอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่เช่นมะม่วง, ไผ่ หรือไทร ชอบนั่งใต้ต้นไม้
สวมผ้าเตี่ยว(Bahag)เหมือนคนพื้นเมือง แต่บางคนเห็นมันสวมเข็มขัด
ว่ากันว่าจากตัวนี้จะถือหินขาวมหัศจรรย์ที่มีขนาดเล็กกว่าไข่นกกระทาไว้ด้วย
โดยใครที่ได้หินนั้นมาครอบครองจะสมปรารถนา
แม้หน้าตาดูแล้วน่ากลัวแต่มันก็ไม่ดุร้าย เพราะมันชอบคนที่เป็นมิตรกับมัน
และอยากมีความรัก
และมันจะปรากฏตัวเห็นหากพบคนที่มันชอบใจ(ปกติมันไม่ปรากฏตัวให้เห็น)
มันชอบพูดคุยกับคนเดินทางหรือคนที่หลงป่า
และมีความเชื่อว่ามันเป็นสาเหตุทำให้คนหลงทาง
นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นเกี่ยวกับตัวมันอีก เช่น
มีเสียงกรอบแกรบทั้งๆ ที่ไม่มีลม หรือได้ยินเสียงหัวเราะดังจากต้นไม้
หรือมีควันออกจากด้านบนของต้นไม้ เป็นต้น

7 Fenoderee

เฟโนเดรีมีความหมายว่าตัดหญ้าว่องไว
เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในเกาะไอเซลส์ ออฟ
แมน(เป็นเกาะที่อยู่ระหว่างไอร์แลนด์และอังกฤษ)
ตามตำนานว่ากันว่ามันไปล่วงเกินนางฟ้าเข้า
จึงถูกสาปให้มีหน้าตาอัปลักษณ์และมีปัญญาทึบ
ต้องอยู่สันโดษโดยปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ไปชั่วนิรันดร์
หากแต่มันไม่ดุร้าย แถมยังช่วยเกษตรทำงานหนักในไร่อย่างขยันขันแข็ง
เก่งในเรื่องเก็บเกี่ยวพืช โดยใช้เครื่องมือที่คล้ายเคียว
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งมันช่วยเก็บน้ำใส่ในตะแกรงหรือล่ากระต่ายป่า
หรือช่วยเฝ้าฝูงแกะก็ได้ โดยมันจะทำงานไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีบ่น
แต่หากใครเสนอมอบเสื้อผ้าอาภรณ์ให้
มันจะหยุดทำงานและหนีหายไปหันทีเนื่องจากมันเชื้อว่าเสื้อผ้าจะทำให้มันเกิด
โรคร้ายแรงทำให้ถึงตายได้

6 Anthropophagi


อันโธรโปฟากี
เป็นเผ่ากินคนในตำนานโบราณของอังกฤษที่ปรากฏในงานเขียนขอศตวรรษที่ 4
ก่อนคริสตกาล ในเรื่อง The Histories และ ในบทประพันธ์ของวิลเลียม
เชกส์เปียร์ ในศตวรรษที่ 17 จากเรื่อง Merry Wiver of Windsor และ Othello
โดยเผ่านี้ที่มีลักษณะประหลาดคือมันไม่มีศีรษะบนบ่า
แต่มีสมองอยู่ภายในร่างกาย มีตาอยู่ที่บ่าทั้งสองข้าง
และมีปากระหว่างแผ่นอก อาศัยในเกาะทะเลดำ

5 The Vegetable Lamb of Tartary

ผักแกะแห่งตาร์ตาร์
เป็นความเชื่อตลกของคนสมัยก่อนโดยตำนานกล่าวถึงพืชชนิดหนึ่งที่ผลคล้ายลูก
เกาะ(แกะเป็นพืช) ความจริงเจ้าพืชที่ว่านั่นก็คือฝ้ายนั้นเอง
โดยสมัยก่อนนั้นชาวยุโรปไม่รู้จักฝ้าย
ซึ่งเป็นพืชที่สามารถใช้เป็นเครื่องนุ่มห่มได้(ฝ้ายมาจากตะวันออก)
พวกเขาเข้าใจว่าฝ้ายนั้นมาจากขนสัตว์ชนิดหนึ่ง
ยิ่งพ่อค้าตะวันตกชาวตาร์ตาร์หรือพวกตาดที่เอาฝ้ายมาขายบอกว่าฝ้ายคือขนของ
แกะ โดยลูกแกะของเขาสามารปลูกขึ้นในสวนไร่นาเหมือนกับผักอื่นๆ
โดยมันสามารถออกลูกเป็นฝ้ายได้จนเกิดความเข้าใจผิดตามมาว่าแกะของตะวันออก
เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีเมล็ดเหมือนแตงโม
และผลของมันเหมือนแกะปกติมีเลือดมีเนื้อ เลือดรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง
ตัวแกะเชื่อมติดกับต้นไม้ด้วยสายสะดือ และเล็มหญ้ารอบต้น
เมื่อต้นไม้หายไปหมดทั้งต้นไม้และแกะก็จะตาย (ในตำนานอ้างอิงจากต้น
Cibotium barometz)

4 Bishop-fish

ปลาปิชอป เป็นปลาประหลาดที่เชื่อว่ามีอยู่จริง
โดยเป็นปลาขนาดยักษ์อาศัยอยู่ในย่านทะเลบอลติคของชาวยุโรป
มีลักษณ์เหมือนพระสังฆราชของชาวคริสต์ โดยมีหัวล้านตรงกลางกระหม่อม
และลำตัวเป็นปลาหมึกยักษ์ มีรายงานว่าในศตวรรษที่ 16
กษัตริย์โปแลนด์ได้รับปลาชนิดนี้จากชาวประมงที่นำมาถวาย
ต่อมาพระองค์ก็ไปให้พระปิชอปคาทอลิกรูปหนึ่ง
โดยต่อมาเจ้าปลาตัวนี้ได้ส่งสายตาอ้อนวอนต่อท่านเพื่อขอให้ปล่อยมันลงสื่อ
ทะเล ซึ่งได้ผล ก่อนที่มันจะถูกปล่อยตัวมันได้สลักรูปกางเขนเอาไว้บนลำตัว
ก่อนที่จะหายไปในทะเล ต่อมาในปี 1531
มีการจับปลาชนิดคล้ายกันนี้ในใกล้มหาสมุทรเยอรมัน
มันไม่ยอมกินอาหารและตายหลังจากนั้นสามวัน
โดยชื่อของมันปรากฏอยู่ในสารานุกรมสัตว์ Historiae animalium (Gesner)
และสัตว์ประหลาดใน Pocket My # 58

3 Kludde


เป็นตำนานความเชื่อของชาวฟรานเดอร์ในเบลเยี่ยม
เป็นวิญญาณแห่งสายน้ำที่ปรากฏในรูปของสุนัขตัวใหญ่สีดำทะมึน(บางตำนานเหมือน
แมวใหญ่สีดำ หรือนกสีดำ) มีขนยาวตามตัว เดินด้วยสองขาหลัง
สามารถเดินได้คล่องแคล่วเหมือนมนุษย์และรวดเร็ว
มีปีกเหมือนนกอินทรีและมันสามารถบินได้
มันชอบซ่อนตัวอยู่ตามเส้นทางที่คนผ่าน
และมักจะล่านักเส้นทางเหล่านั้นยามอาทิตย์กำลังตกโพล้เพล้
และอีกสถานที่คือบริเวณลำห้วยหนองบึงต่างๆ มันก็อาศัยอยู่เช่นกัน

2 Kikimora


คิคิโมรา เป็นปีศาจในตำนานของชาวสลาฟ เป็นวิญญาณแม่ไก่ที่
คอยสิงสู่อยู่ในบ้านตามชนบท ที่หลังเตาหรือห้องใต้ดินในบ้าน
มักปรากฏการณ์ในรูปเด็กสาวในชุดสาวบ้านนอก แต่มีคอเล็กเหมือนไก่
และแขนเป็นปีกและนิ้มมือเป็นเล็บสัตว์ และมีขาคล้ายไก่เช่นกัน
กล่าวกันว่าเธอเป็นภรรยาของโดโมวอย(Domovi)ซึ่งผีบ้านผีเรือนเหมือนกัน
โดยเธอมักคอยกวดขันให้แม่บ้านดูแลงานบ้านให้เรียบร้อย หากไม่เรียบร้อย
เธอจะสร้างความปั่นป่วนจนกว่าแม่บ้านจะทำงานของตนให้เรียบร้อย
ที่เล้าไก่ต้องดูแลอาหารไก่เป็นอย่างดีด้วย เพราะหากมันโกรธขึ้นมากอาจทำให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายได้

1 Shirime

เป็นผีประหลาดของญี่ปุ่น ที่มีตาขนาดใหญ่ตาเดียวอยู่ที่ทวารหนัก
ในขณะที่ใบหน้าไม่มีตาจมูกและปาก
มันมักปรากฏตัวในเวลากลางคืนตามถนนในเกียวโต เพื่อหลอกนักเดินทาง
โดยเรื่องราวของมันปรากฏในไฮกุของศิลปิน Yosa Buson(กวีเอกแห่งยุคเอโดะ)
ที่เล่าว่าในยุคเอโดะมีซามูไรคนหนึ่งเดินถนนในตอนกลางคืนเขาพบชายลึกลับที่
ร่างกายเปลือยคนหนึ่งกำลังคลาน เขาร้องเรียก
และชายคนนั้นก็เดินมาในลักษณะย้อนหลัง
และเขาก็ได้สังเกตว่ามีตาขนาดใหญ่ที่ทวารหระก
เขาเลยตกใจและวิ่งกรีดร้องและเจ้าปีศาจตัวนั้นก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย